ผลดีของการบวชเป็นสมณะ (ตอน 2)
[ณ สวนอัมพวันของหมอชีวกโกมารภัจจ์ กรุงราชคฤห์ พระเจ้าอชาตศัตรูกำลังสนทนาธรรมกับพระพุทธเจ้าเรื่องผลดีของการบวชเป็นสมณะ]
อ: อย่างไรถึงเรียกว่า เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล ?
พ: ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ชิงปล้น ไม่เสพเมถุน ไม่พูดเท็จส่อเสียดหยาบคายเพ้อเจ้อ ไม่ทำลายพืชต้นไม้ ฉันมื้อเดียว ไม่ดูฟ้อนรำขับร้องดนตรีการละเล่น ไม่แต่งตัวด้วยดอกไม้ของหอม ไม่นอนที่สูงที่ใหญ่ ไม่รับเงินทอง ไม่รับข้าวเปลือกดิบเนื้อดิบ ไม่รับสตรีเด็กหญิงทาส ไม่รับแพะแกะไก่หมูช้างวัวม้าลา ไม่รับไร่นาที่ดิน ไม่เป็นทูตรับใช้ ไม่ซื้อขาย ไม่โกงตาชั่ง ไม่รับสินบนหลอกลวง ไม่สะสมข้าวของ ไม่เล่นการพนัน ไม่พูดเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการเป็นสมณะ (ผู้สงบจากกิเลส) ไม่กล่าวหาชิงดีชิงเด่นกัน
ไม่เลี้ยงชีพในทางที่ผิดด้วยติรัจฉานวิชา (วิชาที่ขวางทางสงบจากกิเลส) ได้แก่ การทำนายทายทัก ดูฤกษ์ยามโหราศาสตร์ดวงดาว แก้บนรดน้ำมนต์ปรุงยา ปลุกเสกลงยันต์บูชาไฟ
อ: อย่างไรถึงเรียกว่า เป็นผู้สำรวมในอินทรีย์ (ช่องทางการรับรู้) ต่างๆ ?
พ: เมื่อตาเห็นรูป..หูได้ยินเสียง..จมูกได้กลิ่น..ลิ้นรับรส..กายถูกสัมผัส..ใจรับรู้สิ่งต่างๆแล้ว สักแต่ว่ารู้ว่าเห็น ไม่เอามาเป็นอารมณ์ ซึ่งจะเป็นสุข ไม่ระคนไปด้วยกิเลส
อ: อย่างไรเรียกว่า เป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ ?
พ: รู้สึกตัวอยู่ตลอดทุกอิริยาบถ
อ: อย่างไรเรียกว่า เป็นผู้สันโดษ ?
พ: อยู่กับตัวเองได้ มีจีวรถือบิณฑบาต เหมือนนกมีปีกของตัวเอง จะบินไปทางใดก็ได้
ภิกษุที่มีพร้อมด้วยศีล สำรวม มีสติสัมปชัญญะ และสันโดษเช่นนี้ ย่อมอยู่ในที่สงัด นั่งสมาธิ มีใจบริสุทธิ์ไม่ยึดติด ไม่พยาบาท ไม่ง่วงเหงาหาวนอน ไม่ฟุ้งซ่านรำคาญใจ และไม่สงสัยในธรรม จากนั้นจะเกิดปราโมทย์ปีติ กายใจสงบ เป็นสุข จิตตั้งมั่น
______
ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 11 (พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค ภาค 1 เล่ม 1 สามัญญผลสูตร), 2559, น.263-275
0 comments: