บุคคลเช่นไร ชื่อว่าเป็นผู้ยึดเอาไว้ได้ซึ่งสาระอันสูงสุดในชีวิต ?
บุคคลผู้เจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญ ๕ ประการ คือ
๑. ศรัทธา (ความเชื่อ) ๒. ศีล (การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย)
๓. สุตะ (การสดับตรับฟังหาความรู้) ๔. จาคะ (การเสียสละ) ๕. ปัญญา (ความรอบรู้)
จึงชื่อว่าเป็นผู้ยึดเอาไว้ได้ซึ่งสาระอันสูงสุดในชีวิต
สมดังพระดำรัสที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ในปฐมวัฑฒิสูตร (พระสูตรว่าด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญ) ว่า
“ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกเมื่อเจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญ ๕ ประการ ชื่อว่าย่อมเจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญอย่างประเสริฐ ชื่อว่าเป็นผู้ถือเอาสิ่งที่เป็นสาระ และถือเอาสิ่งที่ประเสริฐแห่งกาย (แห่งชีวิตนี้) ธรรมเป็นเหตุเจริญ ๕ ประการ อะไรบ้าง คือ
๑. ศรัทธา (ความเชื่อ) ๒. ศีล (การรักษากาย วาจา ให้เรียบร้อย)
๓. สุตะ (การสดับฟังหาความรู้) ๔. จาคะ (การเสียสละ) ๕. ปัญญา (ความรอบรู้)
ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกเมื่อเจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญ ๕ ประการนี้แล ชื่อว่าย่อมเจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญอย่างประเสริฐ ชื่อว่าเป็นผู้ถือเอาแต่สิ่งที่เป็นสาระ และถือเอาสิ่งที่ประเสริฐแห่งกายได้ ดังนี้”
(มีพระคาถาประพันธ์ไว้ว่า)
อริยสาวกใด เจริญด้วยศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และปัญญา
อริยสาวกนั้น เป็นสัตบุรุษ มีปัญญาเห็นประจักษ์
ชื่อว่าถือเอาแต่สิ่งที่เป็นสาระสำหรับตนไว้ได้ ในโลกนี้ทีเดียว ดังนี้แล.
สาระธรรมจากปฐมวัฑฒิสูตร ในปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย
พระมหาวัชระ เชยรัมย์ (ติกฺขญาโณ) วัดสามพระยา กรุงเทพ ฯ
14/12/64
0 comments: