คนอย่างนายสิปป์บวรไม่เข้าใจเลยว่า การที่คุณออกจดหมายในนามของผู้ตรวจราชการ การสั่งให้เจ้าคณะ กทม. สอบสวนอาตมา (ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรก) เพียงเพราะอาตมาแสดงความเห็นในพื้นที่สื่อสาธารณะ มันก็คือการใช้อำนาจ คือการคุกคามเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตของคนอื่น
คุณอ้างเรื่องการพูดเรื่องการเมือง ทั้งที่ประเด็นเรื่องที่มาของพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ที่มาของผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่องการให้อำนาจเจ้าพนักงานบังคับพระให้ลาสิกขา การไม่อนุญาตให้พระที่พ้นมลทินในทางคดีความกลับมาครองจีวรใหม่ เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องในทางการเมืองทั้งสิ้น
สำนักงานพุทธไม่ได้งอกขึ้นมาจากพระไตรปิฎก แต่สำนักงานพุทธโผล่ขึ้นมา เพราะพระเณรออกไปเรียกร้องทางการเมือง
พวกคุณอ้างว่า พวกคุณมีหน้าที่สนองงานคณะสงฆ์ แต่พวกคุณไม่เคยเป็นปากเป็นเสียงให้กับคณะสงฆ์ที่ถูกรังแกเลย ไม่เคยทำหน้าที่ปกป้องสิทธิของพระเณรอย่างที่ควรจะทำ
แต่ไหนแต่ไรพวกคุณทำเป็นอยู่เรื่องเดียว คือประจบประแจงพระผู้ใหญ่ และคนมีอำนาจ
มิหนำซ้ำที่หนักไปกว่านั้น คือตอนนี้พวกคุณกำลังเปลี่ยนองค์กรที่มีหน้าที่รับใช้การพระศาสนา รับใช้พระสงฆ์องค์เณร ไปเป็นองค์กรที่มีหน้าที่รับใช้คนในทางการเมืองอย่างเต็มที่ แล้วไหนล่ะคำขวัญของสำนักงานพระพุทธศาสนาที่เขียนว่า "พร้อมเคียงข้างในหลักธรรม"
เปลี่ยนใหม่เถอะนะ เปลี่ยนเป็นว่า "พร้อมเคียงข้างคนมีอำนาจ" แบบนี้น่าจะถูกต้องกว่า
อาตมาขอถามคุณอีกครั้งว่า สำนักงานพุทธเป็นเจ้าทุกข์ต่อเรื่องการให้สัมภาษณ์โดยสุจริตของอาตมาอย่างไร สำนักงานพุทธถึงได้เดือดร้อนหนักหนาที่จะต้องออกหนังสือให้มีการสอบสวนเช่นนี้ แล้วไม่เพียงแค่ให้สอบสวนเท่านั้นนะ แต่ยังให้รายงานผลกลับไปอีก แล้วแบบนี้ จะมาบอกว่าตนเองไม่ใช่เจ้านายคณะสงฆ์ได้อย่างไร
งานที่ควรทำ พวกคุณไม่ทำเลย ปัจจัยเยียวยาพระเณรและวัดเล็กๆน้อยๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งบอกว่าจะจัดการถวายให้ไปถึงไหนแล้ว หน้ากากอนามัยที่ประทานมาจากสมเด็จพระสังฆบิดรแจกจ่ายอย่างทั่วถึงแล้วหรือยัง ความยุติธรรมที่อดีตพระผู้ใหญ่หลายรูปไม่ได้รับ พวกคุณเคยคิดจะทวงคืนให้ท่านบ้างหรือเปล่า ?
ที่อ้างว่าทำตามหน้าที่ก็ขอให้ทำตามหน้าที่ให้จริงเถอะนะ และขอให้ทำโดยธรรมด้วย ไม่ใช่ทำเพราะอยากทำ หรือทำเพราะถูกสั่งให้ทำ ขอให้ทำโดยเห็นแก่ความถูกต้องเถอะนะ ไม่ใช่ว่าทำเพราะความถูกใจหรือความพอใจของเจ้านาย
อย่าทำตนเหมือนแมวหงอยเวลาอยู่กับคนมีอำนาจ แต่ส่งเสียงคำรามเอ็ดอึงเหลือเกินเวลาที่จะจัดการกับพระเณรผู้น้อย
สำนึกบุญคุณกันเสียบ้างเถิด ถ้าไม่มีพระเณรผู้น้อยที่ไปร้องแรกแหกกระเชออย่างเสียสมณสารูปอยู่หน้ารัฐสภา ถ้าไม่มีพระเณรที่กล้าเจรจาเรื่องการเมือง พวกคุณไม่มีเก้าอี้ ไม่ภาษี (ที่น่าเสียดาย) ของชาวบ้านกินเป็นเงินเดือนอย่างทุกวันนี้หรอก
คนอย่างนายสิปป์บวรไม่เข้าใจเลยว่า การที่คุณออกจดหมายในนามของผู้ตรวจราชการ การสั่งให้เจ้าคณะ กทม. สอบสวนอาตมา...
Posted by พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ on Sunday, January 17, 2021
0 comments: