20. หมวดทาง - THE PATH
๑. มคฺคานฏฺฐงฺคิโก เสฏฺโฐ สจฺจานํ จตุโร ปทา,
วิราโค เสฏฺโฐ ธมฺมานํ ทิปทานญฺจ จกฺขุมา ฯ๒๗๓ฯ
ยอดแห่งมรรคา คืออัษฎางคิกมรรค ยอดแห่งสัจจะ คืออริยสัจสี่ประการ ยอดแห่งธรรม คือความปราศจากราคะ ยอดแห่งมนุษย์ คือพระผู้เห็นแจ้ง
Best of paths is the Eightfold Path. Best of truths is the Four Noble Truths. Best of conditions is Passionlessness. Best of men is the Seeing One.
๒. เอเสว มคฺโค นตฺถญฺโญ ทสฺสนสฺส วิสุทฺธิยา,
เอตญฺหิ ตุมฺเห ปฏิปชฺชถ มารสฺเสตํ ปโมหนํ ฯ๒๗๔ฯ
มีทางนี้เท่านั้น ไม่มีทางอื่น ที่จะนำไปสู่ความบริสุทธิ์แห่งทัศนะ พวกเธอจงเดินตามทางนี้เถิด ทางสายนี้พญามารมักเดินหลงเสมอ
This is the only way; None other is there for the purity of vision. Do you enter upon this path, Which is the bewilderment of Mara.
๓. เอตญฺหิ ตุมฺเห ปฏิปนฺนา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสถ,
อกฺขาโต เว มยา มคฺโค อญฺญาย สลฺลสตฺถนํ ฯ๒๗๕ฯ
เมื่อเดินตามทางสายนี้ พวกเธอจักหมดทุกข์ ทางสายนี้ เราได้ชี้บอกไว้ หลังจากที่เราได้รู้วิธีถอนลูกศรคือกิเลส
When walking along this path, You shall make an end of suffering This is the Way made known by me When I had learnt to remove all darts.
๔. ตุมฺเหหิ กิจฺจํ อาตปฺปํ อกฺขาตาโร ตถาคตา,
ปฏิปนฺนา ปโมกฺขนฺติ ฌายิโน มารพนฺธนา ฯ๒๗๖ฯ
พวกเธอจงพยายามทำความเพียรเถิด พระตถาคต เป็นเพียงผู้ชี้บอกทางเท่านั้น ผู้บำเพ็ญฌานเดินตามทางสายนี้ ก็จะพ้นจากเครื่องผูกของพญามาร
You yourselves should make an effort, The Tathagatas can but show the Way. The meditative ones who walk this path Are released from the bonds of Mara.
๕. สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจาติ ยทา ปญฺญาย ปสฺสติ,
อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา ฯ๒๗๗ฯ
"สังขารทั้งปวง ไม่เที่ยงแท้" เมื่อใด บุคคลเห็นแจ้งด้วยปัญญาดังนี้ เมื่อนั้น เขาย่อมหน่ายในทุกข์ นี้เป็นทางแห่งความบริสุทธิ์
'Impermanent are all conditioned things', When thus one sees with wisdom, Then is one disgusted with ill. This is the path to purity.
๖. สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขาติ ยทา ปญฺญาย ปสฺสติ,
อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา ฯ๒๗๘ฯ
"สังขารทั้งปวง เป็นทุกข์" เมื่อใด บุคคลเห็นแจ้งด้วยปัญญาดังนี้ เมื่อนั้น เขาย่อมหน่ายในทุกข์ นี่เป็นทางแห่งความบริสุทธิ์
'Full of Ill are conditioned things', When thus one sees with wisdom, Then is one disgusted with Ill. This is the path to purity.
๗. สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ ยทา ปญฺญาย ปสฺสติ,
อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา ฯ๒๗๙ฯ
"ธรรมทั้งปวง เป็นอนัตตา" เมื่อใด บุคคลเห็นแจ้งด้วยปัญญาดังนี้ เมื่อนั้น เขาย่อมหน่ายในทุกข์ นี่เป็นทางแห่งความบริสุทธิ์
'Lacking permanent entity are all events', When thus one sees with wisdom, Then is one disgusted with Ill. This is the path to purity.
๘. อุฎฺฐานกาลมฺหิ อนุฏฺฐหาโน,
ยุวา พลี อาลสิยํ อุเปโต,
สํสนฺนสงฺกปฺปม กุสีโต,
ปญฺญาย มคฺคํ อลโส น วินฺทติ ฯ๒๘๐ฯ
คนเราเมื่อยังหนุ่มแน่น แข็งแรงแต่เกียจคร้าน ไม่ขยันในเวลาที่ควรขยัน มีความคิดตกต่ำ คนเกียจคร้านเฉื่อยชาเช่นนี้ ย่อมไม่พบทางแห่งปัญญา
The idler who strives not when he should strive, Who though young and strong is slothful, Who is feeble in maintaining right-mindedness, And who is sluggish and inert- Such a one finds not the way to wisdom.
๙. วาจานุรกฺขี มนสา สุสํวุโต, กาเยน จ อกุสลํ น กยิรา,
เอเต ตโย กมฺมปเถ วิโสธเย, อาราธเย มคฺคํ อิสิปฺปเวทิตํ ฯ๒๘๑ฯ
พึงระวังวาจา พึงสำรวมใจ ไม่พึงทำบาปทางกาย พึงชำระทางกรรมทั้งสามนี้ให้หมดจด เมื่อทำได้เช่นนี้ เขาพึงพบทาง ที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายแสดงไว้
Ever watchful in speech, Restrained in mind let him be, Let him commit no evil in deed. These three ways of action let him purify, And so win the way proclaimed by the Buddhas.
๑๐. โยคา เว ชายเต ภูริ อโยคา ภูริสงฺขโย,
เอตํ เทฺวธาปถํ ญตฺวา ภวาย วิภวาย จ,
ตถตฺตานํ นิเวเสยฺย ยถา ภูริ ปวฑฺฒติ ฯ๒๘๒ฯ
ปัญญาเกิดมีได้ เพราะตั้งใจพินิจ เสื่อมไป เพราะไม่ได้ตั้งใจพินิจ เมื่อรู้ทางเจริญและทางเสื่อมของปัญญาแล้ว ควรจะทำตนโดยวิถีทางที่ปัญญาจะเจริญ
Indeed from concentration springs wisdom, Without concentration wisdom wanes. Knowing this twofold way of loss and gain, Let him so conduct himself That wisdom may grow well.
๑๑. วนํ ฉินฺทถ มา รุกฺขํ วนโต ชายเต ภยํ,
เฉตฺวา วนญฺจ วนถญฺจ นิพฺพนา โหถ ภิกฺขโว ฯ๒๘๓ฯ
ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงถางป่า (ราคะ) แต่อย่าตัดต้นไม้ (จริงๆ) ภัยย่อมเกิดจากป่า (ราคะ) พวกเธอทำลายป่า และพุ่มไม้เล็กๆ (ราคะ) ได้แล้ว จักเป็นผู้ไม่มีป่า (ราคะ)
Cut down the forest (of passion) but not real trees, In the forest (of passion) is danger. Cut the forest and brushwood (of passion), Be forestless, O bhikkhus.
๑๒. ยาวญฺหิ วนโถ น ฉิชฺชติ, อณุมตฺโตปิ นรสฺส นาริสุ,
ปฏิพทฺธมโนว ตาว โส วจฺโฉ ขีรปโกว มาตริ ฯ๒๘๔ฯ
ตราบใดบุรุษยังตัดความกำหนัด ต่ออิสตรีแม้นิดหน่อยยังไม่ขาด ตราบนั้น เขาก็ยังคงมีจิตผูกพันอยู่ในภพ เหมือนลุกโคยังไม่หย่านมติดแม่โคแจฉะนั้น
As long as the brushwood of lust, however small, Of a man towards a woman is not destroyed, So long is his mind attached (to existence) As a sucking calf to its mother-cow.
๑๓. อุจฺฉินฺท สิเนหมตฺตโน,
กุมุทํ สารทิกํว ปาณินา,
สนฺติมคฺคเมว พฺรูหย,
นิพฺพานํ สุคเตน เทสิตํ ฯ๒๘ ฯ
จงถอนความรักของตน เหมือนคนถอนดอกบัวที่เกิดในฤดูสารท จงเพิ่มพูนแนวทางแห่งสันติ คือ นิพพาน ที่พระสุคตเจ้าทรงแสดงไว้แล้ว
Root out your affection As an autumn lily is plucked. Cultivate the Path of Peace Made known by the Blessed One.
๑๔. อิธ วสฺสํ วสิสฺสามิ อิธ เหมนฺตคิมฺหิสุ,
อิติ พาโล วิจินฺเตติ อนฺตรายํ น พุชฺฌติ ฯ๒๘๖ฯ
"เราจักอยู่ที่นี่ตลอดฤดูฝน เราจักอยู่ที่นี่ตลอดฤดูหนาว และฤดูร้อน" คนโง่มักคิดเช่นนี้ หารู้อันตรายจะมาถึงตัวเองไม่
'Here shall I live in the rains, Here in the autumn and in the summer', Thus thinks the fool, and does not realize The danger of his own life.
๑๕. ตํ ปุตฺตปสุสมฺมตฺตํ พฺยาสตฺตมนสํ นรํ,
สุตฺตํ คามํ มโหโฆว มจฺจุ อาทาย คจฺฉติ ฯ๒๘๗ฯ
ผู้ที่มัวเมาอยู่ในบุตรและปศุสัตว์ มีมนัสติดข้องอยู่ ย่อมถูกมฤตยูฉุดคร่าไป เหมือนชาวบ้านที่หลับไหล ถูกกระแสน้ำใหญ่พัดพา
On children and flocks Whose mind is attached and set, Him Death carries away As a great flood a sleeping village.
๑๖. น สนฺติ ปุตฺตา ตาณาย น ปิตา นปิ พนฺธวา,
อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส นตฺถิ ญาตีสุ ตาณตา ฯ๒๘๘ฯ
บุตรก็ป้องกันไม่ได้ บิดาหรือญาติก็ป้องกันไม่ได้ คนเราเมื่อถึงคราวจะตาย หมู่ญาติก็ป้องกันไม่ได้
No sons are there for protection, Neither father nor even kinsmen. For one who is assailed by death No protection is there found among kinsmen.
๑๗. เอตมตฺถวสํ ญตฺวา ปณฺฑิโต สีลสํวุโต,
นิพฺพานคมนํ มคฺคํ ขิปฺปเมว วิโสธเย ฯ๒๘๙ฯ
เมื่อรู้ความจริงข้อนี้แล้ว คนฉลาดผู้สำรวมในศีล ไม่ควรชักช้า ในการตระเตรียมทาง ไปสู่พระนิพพาน
Thoroughly knowing this fact, The wise man, restrained in the rules, Delays not to clear the way That leads to Nibbana.
ขอขอบคุณที่มา : http://www.dhammathai.org
0 comments: