คนเราต้องใช้พละ ๕ ในชีวิตประจำวัน, ในชีวิตประจำวันต้องอาศัยพละ ๕ คือ
๑. มีศรัทธาในเรื่องใดแล้วก็จะมีฉันทะ เมื่อมีฉันทะก็จะมีความเพียรตามมา เช่น ศรัทธาในการไปฟังธรรม มีแสดงธรรมที่ไหนก็จะอยากไป แล้วเพียรพยายามที่จะไป ความพอใจที่จะทำอะไรทำให้เรามีกำลังขึ้นมีศรัทธาและฉันทะ แล้วก็จะมีความเพียร
วิธีปลูกฉันทะหรือศรัทธาคือ มองให้เห็นประโยชน์ของสิ่งที่จะทำ
๒. วิริยะ ความเพียรอย่างเสมอต้นเสมอปลาย แบบไฟสุมขอนไม่ใช่ไฟไหม้ฟาง มีความกระหายในสิ่งนั้นตลอดเวลา เพียรแบบรากไม้ไชภูเขาซึ่งเลี้ยงลำต้นมันได้ด้วยความเพียร เช่น เด็กพิการแต่กำเนิดที่มีปู่จบป.๒ ทำของเล่นให้หลานมีหลายอย่าง ถ้าขาดวิริยะแล้วจะไม่สำเร็จ
บุญวาสนาของเราไม่รู้มีเท่าไรแต่วิริยะเราสร้างได้เพียรละอกุศล เพียรระวังไม่ให้อกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น เพียรบำเพ็ญกุศล เพียรรักษากุศลที่เกิดแล้วให้คงอยู่และเจริญยิ่งขึ้น
๓. สติ สติมา สุขเมธติ ผู้มีสติย่อมมีความสุข ไม่ต้องสติสูงส่ง ใช้แค่มีสติรู้จักยับยั้งชั่งใจ (ยับยั้งไว้แล้วจึงชั่งใจว่าจะทำอย่างไร) สติระดับสูง ก็มี สติปัฏฐาน สติเป็นกำลังสำคัญของการทำกุศลและอกุศล เจริญสติแล้วได้สมาธิ ทำสมถะหรือวิปัสสนาจะได้สมาธิและปัญญา
๔. สมาธิ ท่านเล็งไปถึงฌาน ถ้าไม่ถึงขั้นฌาน ก็เจริญวิปัสสนาก็ได้สมาธิเหมือนกัน เรียก วิปัสสนาสมาธิ ถ้ามีสมาธิการทำงานก็สำเร็จด้วยดี สำเร็จเร็ว
๕. ปัญญา ท่านแสดงปัญญา ๒ อย่าง ในพละสูตร
๕.๑ รู้ความเกิดและความดับของนามรูป (สิ่งต่างๆ) อุทยัตถคามินีปัญญา คือ ปัญญาเป็นไปเพื่อรู้เห็นการเกิดและการดับของสังขารทั้งหลาย (อุทยะ = เกิดขึ้น อัตถะ = ตั้งอยู่ไม่ได้ ในที่นี้คือดับไป คามินี =เป็นไปเพื่อ). สิ่งที่เข้าไปยึดมั่นถือมั่นแล้วไม่เป็นโทษไม่มี สิ่งที่เกิดแล้วไม่ดับไม่มี
๕.๒ นิเพธิกปัญญา ปัญญาแทงทะลุให้รู้สิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง และเป็นไปเพื่อความสิ้นทุกข์โดยชอบ เป็นอริยปัญญา ในบาลีใช้ อริยนิเพธิกปัญญา (penetrating insight) หรือ penetrating wisdom มองเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์
ท่าน อ.วศิน อินทสระ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๗, เนื่องในโอกาสทำบุญครบรอบวันเกิดครบ ๗๐ ปี ณ ห้องเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดบวรนิเวศวิหาร
ที่มา : เพจ Wasin Indasara, http://www.dhammathai.org
0 comments: