วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

อายาจิตภตฺตชาตกํ - ว่าด้วยการเปลื้องตน

อายาจิตภตฺตชาตกํ - ว่าด้วยการเปลื้องตน

"เจ  มุจฺเจ [1]  เปจฺจ  มุจฺเจ [2)],     มุจฺจมาโน  หิ  พชฺฌติ;
น  เหวํ  ธีรา  มุจฺจนฺติ,     มุตฺติ  พาลสฺส  พนฺธนนฺติ ฯ

ถ้าท่านปรารถนาจะเปลื้องตนให้พ้น,  ท่านละโลกนี้ไปแล้วก็จะพ้นได้,  ก็ท่านเปลื้องตนอยู่อย่างนี้ กลับจะติดหนักเข้า,  เพราะนักปราชญ์หาได้เปลื้องตนด้วยอาการอย่างนี้ไม่,  การเปลื้องตนอย่างนี้ เป็นเครื่องติดของคนพาล".

1) [มุญฺเจ (สี. สฺยา. ปี.)]   2) [มุญฺเจ (สี. สฺยา. ปี.)]

พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระวิหารเชตวันทรงปรารภพลีกรรมอ้อนวอนเทวดาทั้งหลาย จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า  สเจ  มุญฺเจ  ดังนี้. 

ได้ยินว่า ในกาลนั้น มนุษย์ทั้งหลายเมื่อจะไปค้าขายได้ฆ่าสัตว์ทำพลีกรรมแก่เทวดาทั้งหลาย อ้อนวอนว่า „ข้าพเจ้าทั้งหลายถึงความสำเร็จประโยชน์โดยไม่ขัดข้องมาแล้ว จักกระทำพลีกรรมแก่ท่านทั้งหลายอีก“ ดังนี้แล้วจึงพากันไป. 

ในกาลนั้นพวกมนุษย์ได้ถึงความสำเร็จประโยชน์โดยไม่มีอันตรายมาแล้ว สำคัญว่า „ผลนี้เกิดด้วยอานิภาพของเทวดา“ จึงฆ่าสัตว์เป็นอันมากกระทำพลีกรรมเพื่อปลดเปลื้องการอ้อนวอน. 

ภิกษุทั้งหลายเห็นดังนั้น จึงทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า „ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ประโยชน์ในการอ้อนวอนนี้มีอยู่หรือ ?“ 

พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงนำอดีตนิทานมา ดังต่อไปนี้ :- 

ในอดีตกาล มีกุฎุมพีคนหนึ่งในบ้านแห่งหนึ่งในแคว้นกาสี ปฏิญญา การพลีกรรมแก่เทวดา ผู้สิงอยู่ที่ต้นไทรซึ่งตั้งอยู่ใกล้ประตูบ้านแล้วกลับมาโดยไม่มีอันตราย จึงฆ่าสัตว์เป็นอันมากแล้วไปยังโคนต้นไทรด้วยตั้งใจว่า จักเปลื้องการอ้อนวอน รุกขเทวดายืนอยู่ที่ค่าคบของต้นไม้กล่าวคาถานี้ว่า :-

„ถ้าท่านปรารถนาจะเปลื้องตนให้พ้น  ท่านละโลกนี้ไปแล้วก็จะพ้นได้  ก็ท่านเปลื้องตนอยู่อย่างนี้  กลับจะติดหนักเข้า,  เพราะนักปราชญ์หาได้เปลื้องตน ด้วยอาการอย่างนี้ไม่การเปลื้องตนอย่างนี้  เป็นเครื่องติดของคนพาล“. 

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า  สเจ  มุญฺเจ  เปจฺจ  มุญฺเจ  ความว่า ดูก่อนบุรุษผู้เจริญ ถ้าท่านจะเปลื้องตน คือท่านปรารถนาจะเปลื้องตนท่านละโลกนี้ไปแล้วก็จะพ้นได้ คือจงพ้นโดยประการที่ติดพ้นโลกหน้า. 

บทว่า  มุจฺจมาโน  หิ  พชฺฌสิ  ความว่า ก็ท่านเมื่อปลดเปลื้องโดยประการที่ปรารถนาเพื่อฆ่าสัตว์ปลดเปลื้องชื่อว่ายังติดพ้นด้วยกรรมอันลามก เพราะเหตุไร ? เพราะนักปราชญ์ทั้งหลาย หาได้เปลื้องคนด้วยอาการอย่างนี้ไม่ อธิบายว่า ก็บุรุษผู้เป็นบัณฑิตเหล่านั้นย่อมไม่ปลดเปลื้องตนด้วยคำมั่นสัญญาอย่างนี้เพราะเหตุไร ? เพราะการเปลื้องตนเห็นปานนี้ เป็นเหตุติดพ้นของคนพาลคือธรรมดาการเปลื้องคนเพราะกระทำปาณาติบาตนี้ ย่อมเป็นเหตุติดหนักของคนพาล. รุกขเทวดาแสดงธรรมด้วยประการดังกล่าวนี้. 

ตั้งแต่นั้น มนุษย์ทั้งหลายงดเว้นจากกรรมคือปาณาติบาตเห็นปานนั้นพากันประพฤติธรรม ยังเทพนครให้เต็มแล้ว.

พระศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาสืบต่ออนุสนธิแล้วทรงประชุมชาดกว่า สมัยนั้นเราได้เป็นรุกขเทวดาแล.

Credit: Palipage : Guide to Language - Pali

22. กุกฺกุรชาตกํ - ว่าด้วยสุนัขที่ถูกฆ่า , 21.  กุรุงฺคมิคชาตกํ - ว่าด้วยกวางกุรุงคะ , 20.  นฬปานชาตกํ  -  เหตุที่ไม้อ้อเป็นรูทะลุตลอด ,  19. อายาจิตภตฺตชาตกํ - ว่าด้วยการเปลื้องตน , 18.  มตกภตฺตชาตกํ - ว่าด้วยสัตว์ไม่ควรฆ่าสัตว์ , 17. มาลุตชาตกํ - ว่าด้วยความหนาวเกิดแต่ลม , 16. ติปลฺลตฺถมิคชาตกํ - ว่าด้วยเล่ห์กลลวงพราน , 15. ขราทิยชาตกํ - ว่าด้วยผู้ล่วงเลยโอวาท , 14.  วาตมิคชาตกํ - ว่าด้วยอำนาจของรส , 13. กณฺฑินชาตกํ - ว่าด้วยผู้ตกอยู่ในอำนาจหญิง , 12. นิคฺโรธมิคชาตกํ - ว่าด้วยการเลือกคบ , 11.  ลกฺขณมิคชาตกํ - ว่าด้วยผู้มีศีล , 10. สุขวิหาริชาตกํ - ว่าด้วยการอยู่เป็นสุข , 09. มฆเทวชาตกํ - ว่าด้วยเทวทูต , 08. คามณิชาตกํ  - ว่าด้วยไม่ใจเร็วด่วนได้ , 07. กฏฺฐหาริชาตกํ - ว่าด้วยพระเจ้ากัฏฐวาหนะ ,  06. เทวธมฺมชาตกํ  -  ว่าด้วยธรรมของเทวดา , 05. ตณฺฑุลนาฬิชาตกํ - ว่าด้วยราคาข้าวสาร,  04. จูฬเสฏฺฐิชาตกํ - ว่าด้วยคนฉลาดตั้งตนได้ , 03. เสริววาณิชชาตกํ - ว่าด้วยเสรีววาณิช , 02. วณฺณุปถชาตกํ - ว่าด้วยผู้ไม่เกียจคร้าน , 01. อปณฺณกชาตกํ - ว่าด้วยการรู้ฐานะและมิใช่ฐานะ 




Previous Post
Next Post

0 comments: