ก้อนหินพูดได้ ต้นไม้พูดได้ ต้นไม้แสดงธรรม
.... “...เอาเหงื่อล้างกิเลส ไม่เอาเปรียบข้าวสุกของชาวบ้าน ถ้าทำเนิบๆนาบๆ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ตลอดปี ตลอดชาติ ก็ไม่เห็นได้อะไรขึ้นมา ต้องทำจริงและรุนแรง ทุกอย่าง ทั้งทางกาย ทั้งทางจิต ทางสติปัญญา..เป็นไปในทางทำลายความเห็นแก่ตัว... ควบคุมทุกอย่าง ให้เป็นไปในทางทำลายความเห็นแก่ตัว...
.... ขอให้วัดทั้งวัดนี้ เป็นลักษณะ เป็นนิมิต เป็นเครื่องหมาย ที่จะวัดว่า..มีความเห็นแก่ตัวหรือไม่เห็นแก่ตัว แล้วให้รู้ไว้ว่า เรามีหลักใหญ่ๆว่า จะสร้างวัดนี้ให้พูดได้ ให้ก้อนหินพูดได้ ให้ต้นไม้พูดได้ ให้อะไรๆมันพูดได้ คือว่า..ให้มันแสดงอะไรที่จับใจผู้เห็น และเกิดความรู้สึกในข้อนี้ “เป็นความเงียบ ความสงบ ความหยุด ความว่าง” อะไรก็แล้วแต่...ที่เราให้ต้นไม้พูดได้ ให้ก้อนหินพูดได้ มีความมุ่งหมายอย่างนี้...
.... ในอรรถกถา มีภิกษุองค์หนึ่งบรรลุ“พระอรหันต์” เพียงแต่สักว่า..เห็น“ดอกมะลิป่า”ร่วงลงมาจากต้น เท่านั้น
.... ดอกมะลิป่า ไม่ใช่มีชีวิตจิตใจ ร่วงตามธรรมดา ธรรมชาติของมัน แต่พระองค์นั้นมองไปแง่ที่มีความหมายไปในทางไม่เที่ยง ไม่มีความหวังอะไรเลยในสิ่งเหล่านี้ ในสิ่งที่เอร็ดอร่อยสวยงามอะไรนี้ ฉะนั้น จึงเป็นพระอรหันต์ได้ โดยเห็นสิ่งที่มันทำอะไรไปตามธรรมชาติของมัน ไม่มีจิตมีใจอะไร...
.... ถ้าใครดูในแง่ดังกล่าวนี้ออก ก็แปลว่า คนนั้นได้ฟังต้นไม้พูด ได้ยินต้นไม้พูด นี้เป็นตัวอย่างเท่านั้น...อยู่ในป่าก็ไม่เห็นป่า ถ้าไม่มีสติปัญญา ไปนั่งโคนต้นไม้ก็ไม่ได้ยินต้นไม้พูด ฉะนั้น สร้างสติปัญญาให้เพียงพอ อยู่ตรงนี้ก็จะได้ยินต้นไม้พูด หรือว่าได้เห็นอะไร เห็นต้นไม้แสดงธรรม...
.... ที่นี่(สวนโมกข์) เราให้มีต้นไม้ มีก้อนหิน มีอะไรที่อยู่นิ่งๆ แสดงความสงบอยู่นิ่งๆ ไม่มีความยึดมั่นถือมั่น ไม่ทะเยอทะยาน ถ้าเขามองเห็นและเข้าใจ ก็เรียกว่า..เขาได้ยินต้นไม้ ได้ยินก้อนหินพูด ได้ยินหมู่ธรรมชาติพูด ว่า...“ไม่มีอะไร นั่นแหละ เป็นเวลาที่มีความสุขที่สุด” ถ้าเขาทำอย่างนี้ คุยได้เต็มปาก ว่าการมาที่นี่มันมีอุปนิสัยปัจจัยแก่นิพพาน”
พุทธทาสภิกขุ, ๔ พฤษภาคม ๒๕๑๑, ธรรมบรรยายเรื่อง “ธรรมะเข้ามา ตัวกูออกไป, ตัวกูเข้ามา ธรรมะออกไป” หนังสือ “ธรรมปาฎิโมกข์” เล่ม ๒, ธรรมะเพื่อทางพ้นทุกข์ โดย ท. ส. ปัญญาวุฑโฒ
0 comments: