การจะไปมาหาสู่เข้าเป็นพวกเดียวกัน หรือคบค้ากัน หรือคบค้าสมาคมกัน
การจะไปมาหาสู่เข้าเป็นพวกเดียวกัน หรือคบค้ากัน หรือคบค้าสมาคมกัน ก็ต้องมีความรักในเรื่องนั้นๆเหมือนกันจึงทำให้ทั้งสองคนคบหากันอย่างถูกชะตา แต่การคบหากันในรูปแบบใดไมตรีจิตของเราจึงจะยั่งยืนยาวนาน
พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ในทานวรรค ทุกนิบาต อังคุตตรนิกาย ว่า
“การคบหากัน ๒ อย่างนี้ การคบหากัน ๒ อย่าง อะไรบ้าง คือ
๑. การคบหากันด้วยอามิส
๒. การคบหากันด้วยธรรม
การคบหากัน ๒ อย่างนี้แล บรรดาการคบหากัน ๒ อย่างนี้ การคบหากันด้วยธรรมเป็นเลิศ ดังนี้ ฯ
ในอรรถกถาท่านอธิบายไว้ว่า
บทว่า อามิส ได้แก่ ปัจจัย ๔ ชื่อว่าอามิส โดยเป็นของให้กันและกัน
บทว่า ธรรม ได้แก่ ปฏิปทาเครื่องบรรลุอมตะ นี้ชื่อว่าธรรม
เพราะฉะนั้น การแจกจ่ายกันก็ดี การสงเคราะห์กันก็ดี การอนุเคราะห์กันก็ดี การเกื้อกูลกันก็ดี ทั้งด้วยอามิส ทั้งด้วยธรรม ก็ล้วนแต่เป็นความดีงามทั้งสิ้น แต่การคบหากันให้ยั่งยืนยาวนานนั้นควรคบหากันโดยธรรม การคบหากันโดยธรรมก็เพื่อมุ่งหมายถึงการได้ทางดำเนินชีวิตและเพื่อปรับปรุงความประพฤติของตนให้ดีงามยิ่งๆขึ้นไป นี้แหละจะทำให้ไมตรียั่งยืนยาวนานกว่าอามิส
สาระธรรมจากทานวรรค ตติยปัณณาสก์ ทุกนิบาต อังคุตตรนิกาย
พระมหาวัชระ เชยรัมย์ (ติกฺขญาโณ) วัดสามพระยา กรุงเทพฯ
10/5/65
อามิสกับธรรมพระพุทธองค์มักแสดงไว้คู่กันเสมอ , ไม่มีใครที่ไม่เคยทำอะไรผิดเลย , เหตุไฉนผิวพรรณจึงผ่องใส ? , ทุกข์ปรากฎที่ไหนต้องดับที่นั้น , รู้เพื่อละ , การดับทุกข์ได้จริงและถูกต้อง ต้องไม่ทำบาปดับทุกข์ , การใคร่ครวญก่อนแล้วจึงตัดสินใจเป็นการดี , ภิกษุผู้มีชื่อเสียง คือประชาชนรู้จักกันทั่วแล้ว เมื่อจะแนะนำพร่ำสอนผู้อื่นต้องระวังให้มากขึ้นไปอีก , ตราบใดที่ยังหมั่นทำความดีอยู่เสมอ ตราบนั้นชื่อว่ายังมีความหวัง , กรรมที่มีความเบียดเบียน คือกรรมที่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน
หลวงพ่อใหญ่ วัดม่วงชุม จังหวัดสิงห์บุรี
0 comments: