วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2564

ทำนายปัตถเวน - คำทำนายที่โคตรแม่น (ตอน ๑๐)

ทำนายปัตถเวน - คำทำนายที่โคตรแม่น (ตอน ๑๐)

คำทำนายฝันครั้งประวัติศาสตร์

ความฝันข้อที่ ๗   ถักเชือกหนังให้หมาแทะ 

ฝันว่า ชายคนหนึ่งนั่งฟั่นเชือกหนังอยู่บนแคร่ ปลายเชือกที่ฟั่นแล้วห้อยลงมาที่พื้นดิน ใต้แคร่มีนางหมาตัวหนึ่งนอนอยู่ นางหมากัดกินเชือกที่ฟั่นแล้วไปเรื่อยๆ โดยที่ชายผู้นั้นก็หารู้ตัวไม่

คำทำนาย: 

ในอนาคต ผู้หญิงจะประพฤติตัวเลวทรามสำส่อน กินเหล้าเมายา เที่ยวเตร่ เอาแต่แต่งตัว ใครมีเงินทองของล่อใจก็ไปกับคนนั้น จะประพฤติล้างผลาญทรัพย์สมบัติที่สามีหามาได้ด้วยความเหนื่อยยากเสียสิ้น จะเอาแต่เที่ยวดื่มกินเล่นกับชายอื่น วันๆ จะเฝ้าแต่แต่งองค์ทรงเครื่อง จะไม่เหลียวแลกิจการบ้านเรือน จะซ่อนชู้ไว้ภายในครัวเรือน “แม้แต่ข้าวปลูกที่เก็บเอาไว้หว่านดำ ก็จะขนออกมาตำหุงหากินจนสิ้นแล” 

สรุปคำทำนายคือ ในอนาคต เมียจะผลาญสมบัติผัว

ความเห็น:

ก่อนจะไปถึงความเห็น ขอทำความเข้าใจกับสุภาพสตรีทั้งปวงว่า คำบรรยายในคำทำนายข้างต้นนั้น ผมว่าไปตามต้นฉบับในคัมภีร์ ไม่ใช่ความคิดของผมเอง คัมภีร์ท่านแสดงไว้อย่างไรก็ยกมาตามนั้น ถ้าอยากรู้ว่าท่านว่าไว้อย่างนั้นจริงหรือไม่ ก็สามารถตามไปสืบสวนได้เสมอ

ทีนี้ก็เป็นความเห็นของผม 

คำทำนายข้อนี้ว่าด้วยเรื่องผู้หญิง หรือความประพฤติของภรรยาโดยเฉพาะ   ข้อนี้ต้องเข้าใจสภาพสังคมในยุคก่อนๆ ซึ่งถือว่าเมียเป็นวัตถุภายในครัวเรือน บางยุคนั้นผู้เป็นผัวอาจจะยกเมียให้ใครก็ย่อมทำได้โดยที่เมียไม่อาจจะปฏิเสธได้ 

แม้ยุคต่อมา เมียก็ยังมีฐานะเป็นเพียง “ผู้หาให้กิน” ในขณะที่ผัวมีหน้าที่ “ทำมา” ดังคำที่พูดว่า “ทำมาหากิน” หมายถึงผัวเป็นฝ่าย “ทำมา” และเมียเป็นฝ่าย “หา (ให้ผัว) กิน” 

หน้าที่ของเมียตามสายตาของคนในยุคนั้นก็คือ เป็นผู้ดูแลกิจการภายในครัวเรือน ไม่มีหน้าที่ “แร่ด” ไปไหนมาไหนเป็นอันขาด   คำทำนายได้วาดภาพ “เมียในอนาคต” ว่า จะไม่เป็นไปตามที่เคยเป็น 

พูดอีกนัยหนึ่ง สังคมตะวันออกเคยนิยมว่า ผู้หญิงจะต้อง “เรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้”  แต่คำทำนายบอกว่า ในอนาคต ผู้หญิงจะไม่เรียบร้อยเช่นนั้นอีกต่อไป 

ข้อเท็จจริงที่เป็นไปแล้วทุกวันนี้ก็คือ เมียที่ต้องทำงานนอกบ้านอีกแรงหนึ่งนั้นมีมากขึ้น และถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว   การที่เมียไปทำงานนอกบ้านนั้น ผู้รู้บางท่านบอกว่าเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงของระบบครอบครัว 

โดยอธิบายว่า เมื่อเมียต้องออกไปทำงานนอกบ้านเสียแล้ว งานในบ้านก็ต้องบกพร่อง โดยเฉพาะการอบรมเลี้ยงดูลูกจะต้องบกพร่องอย่างมาก กิจการในครัวเรือนก็จะพลอยปั่นป่วนรวนเรไปหมด แม้จะมี “ผู้ช่วยแม่บ้าน” หรือคนใช้ ก็ทดแทนกันไม่ได้ กลับจะกลายเป็นว่าครอบครัวนั้นมีคนใช้เป็นแม่เรือน 

เมื่อเป็นเช่นนี้ บ้านเรือนจึงไม่มีความหมายอะไรมากไปกว่าที่ซุกหัวนอนไปคืนหนึ่งๆ เท่านั้น   และเมื่อเมียเป็นฝ่ายทำงานหาเงินได้ด้วยตัวเองเสียแล้ว การเห็นความสำคัญของผัวก็ย่อมจะลดลง กลายเป็นว่า ผัวเมียไม่ต้องพึ่งพาอาศัยกันและกันก็ได้ ความรู้สึกผูกพันกันก็มีทางที่จะเสื่อมคลายได้ง่าย เป็นทางมาแห่งการคบชู้มากผัวมากเมียต่อไปอีก 

ฝ่ายลูกที่เกิดมาในครอบครัวเช่นนี้ พบเห็นสภาพเลอะเทอะเละเทะในครอบครัวมาตั้งแต่เกิด ก็หมดความรู้สึกอบอุ่น กลายเป็นคนไม่มีอะไรยึดเหนี่ยว หรือเป็นคนชนิด “ไม่มีอะไร” นอกจากตัวคนเดียว 

เขาก็จะเป็นคนที่ไม่เห็นความสำคัญของพ่อแม่ ไม่เห็นประโยชน์ของครอบครัว และลงท้ายก็ไม่เห็นว่าใครหรืออะไรจะมีความสำคัญอย่างไร เขาก็จะเป็นสมาชิกของสังคมที่สามารถทำอะไรได้ทุกชนิดไม่ว่าจะดีหรือเลวแค่ไหน   สังคมที่เต็มไปด้วยมนุษย์เช่นนี้ก็จะกลายเป็นสังคมสัตว์ไปในที่สุด 

สภาพการณ์จะเป็นไปอย่างที่ว่านี้หรือไม่ ก็น่าคิด 

แต่ผมมองเห็นอีกแง่หนึ่ง คือเห็นว่าคนโบราณนั้นมองเห็นความสำคัญของครอบครัวหรือครัวเรือนมาก และท่านแบ่งความรับผิดชอบกันเด็ดขาด คือ ผัวหรือพ่อรับผิดชอบงานนอกบ้าน ส่วนเมียหรือแม่รับผิดชอบงานในบ้าน 

ตราบเท่าที่งานนอกบ้านและงานในบ้านยังมีคนรับผิดชอบอยู่ครบถ้วน ครอบครัวก็ย่อมดำเนินไปได้ด้วยดี   แต่ดูเหมือนว่าคนโบราณจะให้น้ำหนักแก่หน้าที่ของเมียหรือแม่ไว้ค่อนข้างมาก เพราะบ้านที่มีเมียหรือแม่เป็นผู้บริหารกำกับดูแลนี่แหละคือแหล่งผลิตสมาชิกของสังคม

การพูดถึงความประพฤติในลักษณะ “เมียผลาญสมบัติผัว” ก็เท่ากับเป็นการบอกใบ้ให้รู้ว่า ในอนาคตสังคมจะมีปัญหาอันมีต้นตอมาจากการไม่ทำหน้าที่ให้ถูกต้องของผู้เป็นเมียหรือแม่ 

พูดอย่างนี้ไม่ใช่ผลักภาระนะครับ แต่เพราะเห็นความสำคัญของผู้รับภาระ 

คำสอนในพระพุทธศาสนาก็บอกไว้ชัดว่า สามีต้องมอบความเป็นใหญ่ในบ้านให้ภรรยา (อิสฺสริยโวสฺสคฺเคน - ด้วยมอบความเป็นใหญ่ให้ : สิงคาลกสูตร ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค พระไตรปิฎกเล่ม ๑๑ ข้อ ๒๐๑) บรรยากาศภายในบ้านจะเป็นอย่างไรจึงย่อมขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของผู้เป็นเมียหรือแม่

หรือท่านผู้อ่านจะมีความเห็นเป็นประการใด?

คำกลอนทำนายพระยาปัตเถวน

หนึ่งฝันว่ามีผู้ฟั่นเชือกหนัง   อยู่เคหังเพิงพะในสถาน   

ปลายเชือกเสือกห้อยลงย้อยยาน   สุนัขนอนใต้ร้านกัดกินไป

ยิ่งฟั่นก็ยิ่งสั้นไปหมดสิ้น   หายืดลงถึงดินนั้นได้ไม่

พระโลกุตมาจารย์บรรหารไว้   ว่านานไปจะได้เห็นขุกเข็ญมี

ชายหาลาภสักการมาบ้านเรือน   หญิงก็เบือนบากบ่ายจำหน่ายหนี

ทำแสนงอนซ่อนทรัพย์ดูอัปรีย์    ทั้งข่มขี่หยาบคายให้ชายกลัว

ทำยอกยักลักทรัพย์ส่งให้ชู้   ตะแคงค่อนตะคอกขู่ข่มเหงผัว

ชายเขลาเมารักสมัครมัว   เห็นผัวกลัวกลับข่มให้สมใจ ฯ

เอื้อเฟื้อต้นฉบับคำกลอน: อาทิตย์ รักษา

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย,  ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๓,  ๑๘:๐๐

ช่วงวันเวลาที่คนไทยต้องร่วมกันให้กำลังใจหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ของไทยและของโลก

ทำนายปัตถเวน - คำทำนายที่โคตรแม่น (ตอน ๑),  (ตอน ๒),  (ตอน ๓),  (ตอน ๔),  (ตอน ๕),  (ตอน ๖)(ตอน ๗),  (ตอน ๘),  (ตอน ๙),  (ตอน ๑๐),  (ตอน ๑๑),  (ตอน ๑๒),   (ตอน ๑๓),  (ตอน ๑๔),  (ตอน ๑๕),  (ตอน ๑๖),  (ตอน ๑๗),  (ตอน ๑๘),  (ตอน ๑๙),  (ตอน ๒๐),  (ตอน ๒๑),  (ตอน ๒๒),  (ตอน ๒๓)



Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: