วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2564

อำนาจวาสนา

“อำนาจ” คำนี้ช่างมีอำนาจสมชื่อจริง ๆช่างมีมนต์ขลังและมีความหอมหวนไม่น้อย เพราะดูเหมือนว่าใคร ๆ ก็ชอบความมีอำนาจกันทั้งนั้น คนที่พูดว่าฉันไม่อยากมีอำนาจ ฉันไม่ต้องการอำนาจนั้นมักจะเป็นคนที่ไม่อาจจะมีอำนาจได้เสียมากกว่า เพราะถึงอยากจะได้อยากจะมีอย่างไรมันก็เป็นไปไม่ได้ เลยพูดแก้เกี้ยวไปอย่างนั้นเอง ทั้ง ๆ ที่ใจจริงแล้วก็อยากมีอำนาจเหมือนกัน ข้อนี้เราต้องยอมรับกันก่อนจึงจะพูดกันต่อไปรู้เรื่อง

ทำไมคนจึงอยากมีอำนาจ ?

ก็เพราะว่าอำนาจอย่างเดียวจะบันดาลทุกสิ่งทุกอย่างบรรดามีในโลกให้ได้ทั้งหมด อะไรที่ว่ายาก อะไรที่ว่าสิ่งอื่นทำไม่ได้ บันดาลไม่ได้ อำนาจสามารถทำได้บันดาลได้ อย่าว่าแต่เรื่องวัตถุสิ่งของเลย แม้คนซึ่งมีชีวิตมีปัญญาด้วยกันนี่แหละยังถูกอำนาจชักนำให้ไปตายได้เป็นแสนเป็นล้าน และยอมตายอย่างเต็มใจเพื่อธำรงไว้ซึ่งอำนาจเสียด้วย คนมีอำนาจจึงจัดอยู่ในประเภทคนเหนือคน และคนมีอำนาจบางคนยังเหนือเทวดาเสียด้วยซ้ำ เพราะอำนาจยิ่งใหญ่อย่างนี้คนจึงอยากมีอำนาจกัน พระพุทธเจ้าของเราก็ทรงยอมรับความจริงข้อนี้ไว้ว่า

วโส  อิสฺสริยํ  โลเก.   อำนาจเป็นใหญ่ในโลก ฯ

นอกจากนั้นอำนาจยังเป็นตัวนำให้มีวาสนาด้วย คนมีอำนาจมักมีวาสนาดี มีวาสนาสูงส่งที่คนทั่วไปยำเกรง และคนมีวาสนาเท่านั้นอีกเหมือนกันที่จะมีอำนาจ คนไม่มีวาสนาหามีอำนาจได้ไม่ อำนาจกับวาสนาจึงเป็นคู่แฝดที่แยกกันไม่ออกด้วยประการฉะนี้

อำนาจนั้นมีมาได้จากหลายทาง เช่น จากทรัพย์สมบัติ จากพวกพ้อง จากตำแหน่งหน้าที่ จากคุณธรรม คนบางคนมีทรัพย์เป็นอำนาจคือ เมื่อมีทรัพย์สมบัติมากก็มีอำนาจตามมา บางครั้งมีบารมีตามอำนาจมาอีกขบวนหนึ่งเป็น “อำนาจบารมี” ไป คนบางคนมีพวกพ้องเป็นอำนาจ คือใช้กำลังพวกเป็นเครื่องแสดงความมีอำนาจ ส่วนคนบางคนมีตำแหน่งหน้าที่เป็นอำนาจ คือพอมีตำแหน่งสูงเข้าก็กลายเป็นคนมีอำนาจไปทันที สามารถชี้ตายชี้เป็นได้ แต่อำนาจเหล่านี้มีขึ้นมีลง มีต้นมีปลาย จะมีอำนาจอยู่ได้ก็ต่อเมื่อมีทรัพย์ มีพวก และมีตำแหน่งเท่านั้น หากหมดทรัพย์ หมดพวก หลุดจากตำแหน่งเมื่อไรอำนาจก็หมดไปทันที เมื่ออำนาจหมดวาสนาก็พลอยตกไปด้วยและบารมีก็พลอยสิ้นไปด้วยเช่นกัน

อำนาจข้างต้นนั้นไม่ค่อยจีรังยั่งยืน เพราะขาดฐานอำนาจที่สำคัญคือธรรม ได้แก่ความดีในตัวผู้ทรงอำนาจนั้น ผู้มีอำนาจแล้วใช้อำนาจเป็นธรรมหรือใช้ธรรมเป็นอำนาจนับว่าเป็นผู้มีอำนาจแท้จริง และจะมีอำนาจยั่งยืนตลอดชีวิตแม้ว่าทรัพย์จะหมดไปพวกพ้องจะไม่มีมากเหมือนก่อน แม้จะหลุดจากตำแหน่งหน้าที่แล้วก็ตามก็จะยังมีคนให้ความเคารพนับถือ ให้ความยกย่อง ให้ความเกรงใจไปมาหาสู่ไม่ขาด เพราะความดีคือธรรมนั้นยังมีอำนาจประทับใจเขาอยู่

ตรงกันข้าม ผู้มีอำนาจใช้อำนาจผิดธรรมไม่ใช้ธรรมเป็นอำนาจหรือเป็นฐานรองอำนาจขณะที่มีอยู่ มัวเมาอยู่ในอำนาจจนเกินไป เมื่อถึงคราวหมดอำนาจลงนอกจากฟ้าดินจะลงโทษแล้วผู้ที่ตัวเองเคยใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงโดยไม่เป็นธรรมนั่นแหละจะพากันลงโทษ จะกลายเป็นคนไร้ทั้งญาติขาดทั้งมิตร จะมีแต่ความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว ไม่มีใครอยากเข้าใกล้อีกต่อไป ทั้งนี้เพราะไม่มีอะไรจะให้เขาได้พึ่งอีกแล้วเหมือนต้นไม้ที่มีผลดก พอหมดผลแล้วนกกาก็บินจากไปไม่แยแส เพราะฉะนั้นผู้มีอำนาจแล้วใช้อำนาจเป็นอิทธิพลจึงมักจะกลัวหมดอำนาจ เพราะเมื่อหมดอำนาจแล้วก็เกรงจะถูกลืมหรือถูกห่างเหินดังกล่าว จึงต้องแสวงหาอำนาจกันต่อไปแม้จะต้องเหนื่อยยากลำบากอย่างไรก็ยอมทนยอมสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจและเพื่อรักษาไว้ซึ่งอำนาจนั้น

อำนาจเป็นดาบสองคมที่ประหัตประหารคนอื่นก็ได้ ประหัตประหารตัวเองก็ได้ นัยตรงข้ามดาบนั้นสามารถจะให้คุณแก่ผู้อื่นและตัวเองก็ได้ อันนี้อยู่ที่ตัวผู้ใช้ เพราะอำนาจไม่มีคุณไม่มีโทษในตัวมันเองเหมือนมีดไม่มีคุณไม่มีโทษในตัว ใครนำไปใช้ในทางดีก็มีคุณ ใครนำไปใช้ในทางทำลายก็ให้โทษ อำนาจก็เช่นกันหากใช้ไปในทางสร้างสรรค์ในทางเป็นธรรมก็ก่อประโยชน์ให้แก่ตัวผู้ใช้และสังคมได้อย่างดี แต่ถ้าใช้ไปในทางทำลาย ในทางผิดธรรมก็ก่อให้ความวิบัติให้แก่ตัวผู้ใช้และสังคมได้อย่างดี แต่ถ้าใช้ไปในทางทำลาย ในทางผิดธรรมก็ก่อความวิบัติให้ทั้งแก่ตนเองและสังคมส่วนรวมอย่างมหันต์

ผู้ใช้ธรรมเป็นอำนาจเท่านั้นจึงจะอยู่ค้ำฟ้าได้  แม้ตายไปแล้วประวัติศาสตร์ก็ยังจารึกไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษากันตลอดไป ส่วนผู้ใช้อธรรมเป็นอำนาจนอกจากจะถึงความวิบัติโดยไม่ช้าแล้วแม้ตายไปแล้วคนเขาก็ยังสาปแช่งตามไม่สิ้นสุด อันเป็นเหตุก่อความอับอายให้แก่ลูกหลานในวงศ์ตระกูลตลอดไปไม่น้อยเลย 

ที่มา : https://www.stou.ac.th/stoukc/elder/main6_29.html



Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: