วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ถ้ามีศีลไม่บกพร่อง ใจก็สงบได้ง่าย

ถ้ามีศีลไม่บกพร่อง ใจก็สงบได้ง่าย

“ถ้าบุคคลใด มี “ศีล” โดยปกติในสันดาน ไม่มีบกพร่อง เป็นศีลชนิดที่..พระอริยเจ้าชื่นชมพอใจแล้ว ก็ชื่อว่าบุคคลนั้นได้ “ความสงบ” อันแท้จริง ในขั้นต้น  เขามีโอกาสก้าวขึ้นสู่ขั้นต่อไปคือ “สมาธิ” ได้โดยง่าย  เพราะเมื่อกาย วาจา สงบดี ไม่มีโทษรบกวนแล้ว ใจ..ก็สงบได้ง่าย”

พุทธทาสภิกขุ, จากหนังสือ : “เสียงแห่งความสงบ”

“ศีล” เปรียบเหมือนปฐพี  

ศีล เหมือนปฐพี เป็นที่ดำรงแห่งเหล่าพฤกษชาติ 

“เหล่าพฤกษชาติย่อมงอกงาม ผลิดอก ออกผล แก่มวลมนุษย์ โดยดำรงอยู่ในปฐพีนี้ ฉันใด ศีลก็เหมือนปฐพีอันเป็นที่ดำรงแห่งเหล่าพฤกษชาติ อันเหมือนกับการเจริญ “อริยมรรคมีองค์ ๘” ฉันนั้น ”  (ที่มา : สํ. มหา. ๑๙/๑๕๐/๔๔)

ในคัมภีร์ “เนตติปกรณ์” ได้กล่าวถึงศีลว่ามีอยู่ ๕ ประเภท คือ

๑. “ปกติศีล” ศีลโดยปกติ คือ ศีลที่บุคคลรักษาโดยมิได้สมาทาน ด้วยเห็นว่าศีล ๕ เป็นปกติของชาวโลก ไม่ว่าจะสมาทานหรือไม่ก็ตาม ถ้างดเว้นจากการผิดศีลย่อมได้รับผลดี ถ้าล่วงละเมิดก็ได้รับผลไม่ดี ศีลประเภทนี้เนื่องด้วยพระอริยบุคคลเป็นพิเศษ ท่านย่อมไม่ละเมิดศีลทั้งในภพนี้และภพต่อไป จนถึงเวลาที่ดับขันธ์ปรินิพพาน

๒. “สมาทานศีล” ศีลโดยการสมาทาน โดยรับเอาจากพระภิกษุ หรือสมาทานหน้าพระพุทธรูป หรือตั้งใจว่าจะงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ฯ เป็นต้นด้วยตนเอง.  

๓. “จิตตปสาทะ” ความผ่องใสแห่งจิต คือศีลที่เกิดขึ้นในขณะฟังธรรม เป็นต้น ซึ่งจิตผ่องใสปราศจากนิวรณ์.  ๔. “สมถะ” ศีลที่เกิดขึ้นในขณะเจริญสมถภาวนา  ๕. “วิปัสสนา” ศีลที่เกิดขึ้นในขณะเจริญวิปัสสนาภาวนา



Previous Post
Next Post

post written by:

0 comments: