วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2565

ทุกข์ปรากฎที่ไหนต้องดับที่นั้น

ทุกข์ปรากฎที่ไหนต้องดับที่นั้น

อีกข้อหนึ่งที่จะต้องมองให้เห็นพร้อมกันไปในคราวเดียว คือ ทุกข์ปรากฎที่ไหน หรือจากอะไร เราต้องดับที่นั่น หรือจากเหตุอันนั้น ดับสิ่งที่เป็นเหตุของความทุกข์นั้น อย่าแยกกันเป็นคนละที คนละเรื่อง คนละคราว เมื่อความทุกข์เกิดจากอวิชชา ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดตัณหา อุปาทาน มันก็ ต้องดับที่อวิชชา ตัณหาอุปาทาน ทำไมจะต้องไปจ้างเทวดามาดับ เสียเป็ด เสียไก่ เสียหัวหมูหัวอะไรต่างๆ เหล่านี้

เพราะว่าความทุกข์นั้นเกิดมาจาก อวิชชา ตัณหา อุปาทาน มันก็ต้องดับลงไปที่ต้นเหตุของมัน ความทุกข์เกิดที่ไหน ? ก็คือ เกิดที่ตา ที่หู ที่จมูก ที่ลิ้น ที่กาย ก็ต้องดับกันให้ถูกเรื่องที่ตรงนั้น แต่ว่า ในที่สุด ก็ต้องถือว่า มันเกิดที่ใจ เพราะแม้แต่เข้ามาทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางผิวหนังอะไรก็ตาม มันก็ไปรวมจุดอยู่ที่ใจ จึงต้องจัดการที่ศูนย์กลาง คือ ใจ

ที่นี่ (ในสวนโมกข์) เรามีภาพแสดงการดับทุกข์ ว่ามันเกิดที่ไหน ดับที่นั่น คือสระน้ำที่มีต้นมะพร้าวอยู่กลางสระ ทางทิศใต้ เรียกว่า ภาพการดับทุกข์ นิพพานเกิดที่วัฏฏสงสาร นั้นเอง ก็ดับที่วัฏฏสงสาร ทุกข์อยู่ที่วัฏฏสงสาร พอดับความทุกข์ที่วัฏฏสงสารลงไป นิพพานก็อยู่ที่นั่น ฉะนั้น ตันมะพร้าวกับน้ำทะเลขี้ผึ้ง ก็อยู่ด้วยกันที่นั่น หยุดทุกข์ หยุดความเวียนว่ายของกองทุกข์

คนเขามักจะเอาไปแยกกันเสีย มีความทุกข์ที่บ้าน เอามาดับที่วัด หรือมีความทุกข์เกิดที่ตาที่หู เขาก็ไปดับที่ไหนกันก็ไม่รู้ ไม่แก้ปัญหาให้ถูกเรื่อง ถูกสถานที่ ถูกเหตุการณ์ของมัน

โมกขธรรมประยุกต์ (น.๑๖๐) ,  ธรรมโฆษณ์ l พุทธทาสภิกขุ

Credit: สโมสรธรรมทาน สวนโมกข์กรุงเทพ

"วัดป่าพรหมยาน" จังหวัดฉะเชิงเทรา

ประดิษฐานสมเด็จองค์ปฐมเรืองแสง ณ ลานธรรมพุทธจักรวาล พื้นด้านล่างมีภาพวาดปลาอานนท์เรืองแสง 3 มิติ เป็นปลาที่เกิดตั้งแต่สร้างโลก และต้องแบกน้ำหนักโลกเอาไว้ ยามพลิกตัว ทำให้แผ่นดินไหว








Previous Post
Next Post

0 comments: