วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

เมื่อไม่ยึดติดยินดีในสิ่งใดแม้แต่ชีวิตและร่างกาย ก็จะไม่ทุกข์

เมื่อไม่ยึดติดยินดีในสิ่งใดแม้แต่ชีวิตและร่างกาย ก็จะไม่ทุกข์

[ณ วิหารเชตวัน เขตกรุงสาวัตถี พระปุณณะได้เข้าไปหาพระพุทธเจ้า]

ป:  ขอท่านโปรดสอนข้าพระองค์อย่างย่อๆที่ฟังแล้วจะนำไปปฏิบัติได้

พ:  ถ้าอย่างนั้น เธอจงฟังให้ดี

มีรูปที่รู้ได้ด้วยตาซึ่งน่าใคร่น่าพอใจ ถ้าเธอหลงยึดติดในรูปนั้น ก็เกิดความยินดีขึ้น เมื่อความยินดีเกิด ทุกข์ก็เกิด

มีเสียงที่รู้ได้ด้วยหู..มีกลิ่นที่รู้ได้ด้วยจมูก..มีรสที่รู้ได้ด้วยลิ้น..มีสัมผัสที่รู้ได้ด้วยกาย..มีอารมณ์ต่างๆที่รู้ได้ด้วยใจ

ถ้าเธอหลงยึดติดใน[สิ่งเหล่านั้น] ก็จะเกิดความยินดีขึ้น เมื่อความยินดีเกิด ทุกข์ก็เกิด แต่ถ้าไม่หลงยึดติด ความยินดีก็ดับ เมื่อความยินดีดับ ทุกข์ก็ดับ

ปุณณะ เธอจะไปอยู่ชนบทไหน?

ป:  ข้าฯจะไปอยู่ที่สุนาปรันตะ

พ:  คนที่สุนาปรันตะเป็นคนดุ ถ้าเธอโดนเขาด่าว่า เธอจะคิดอย่างไร?

ป:  ข้าฯก็คิดว่า ยังดีที่เขาไม่ใช้มือทุบตีเรา

พ:  ก็ถ้าเขาใช้มือทุบตีล่ะ?

ป:  ข้าฯก็คิดว่า ยังดีที่เขาไม่ใช้ก้อนดินทุบตีเรา

พ:  ก็ถ้าเขาใช้ก้อนดินทุบตีล่ะ?

ป:  ข้าฯก็คิดว่า ยังดีที่เขาไม่ใช้ท่อนไม้ทุบตีเรา

พ:  ก็ถ้าเขาใช้ท่อนไม้ทุบตีล่ะ?

ป:  ข้าฯก็คิดว่า ยังดีที่เขาไม่ใช้อาวุธทำร้ายเรา

พ:  ก็ถ้าเขาใช้อาวุธทำร้ายล่ะ?

ป:  ข้าฯก็คิดว่า ยังดีที่เขาไม่ฆ่าเราตาย

พ:  ก็ถ้าเขาฆ่าเธอตายล่ะ?

ป:  ข้าฯก็คิดว่า มีเหล่าสาวกของท่านที่อึดอัดใจ เกลียดชังร่างกายและชีวิต คิดจะฆ่าตัวตาย แต่ตัวเรากลับได้ตายโดยไม่ต้องทำอะไรเลย

พ:  ดีละปุณณะ เธอรู้จักข่มใจและสงบระงับได้ตามนี้ จะสามารถอยู่ในสุนาปรันตะได้

[ต่อมา พระปุณณะสามารถทำให้คนในสุนาปรันตะเป็นอุบาสกได้ประมาณ 500 คนในพรรษานั้นเอง และตัวท่านเองก็รู้แจ้งซึ่งวิชชา 3* ในพรรษานั้นเช่นกัน ภายหลังเมื่อพระปุณณะละสังขารแล้ว ภิกษุหลายรูปได้เข้าไปถามพระพุทธเจ้าว่า]

ภ:  พระปุณณะละสังขารแลัว จะไปเกิดที่ไหน มีภพหน้าเป็นอย่างไร?

พ:  ปุณณะเป็นคนฉลาด ได้บรรลุธรรมแล้ว ปุณณะปรินิพพานแล้ว

________

ที่มา:  เรียบเรียงจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 23 (พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ ภาค 3 เล่ม 2 ปุณโณวาทสูตร ข้อ 754), 2559, น.410-414

*1. ระลึกชาติได้ หนึ่งชาติบ้าง สิบชาติบ้าง เป็นกัปบ้าง (บุพเพนิวาสานุสติญาณ)

2. มองเห็นการเกิดตายของสัตว์ที่ทำดีทำชั่วทั้งหลาย (จุตูปปาตญาณ) และ

3. รู้ว่าเกิดปัญญาที่ทำให้รู้แจ้ง กิเลสทั้งหลายหมดสิ้นไปแล้ว รู้ได้ว่าตัวเองได้หลุดพ้นแล้ว (อาสวักขยญาณ)

Credit:  พระพุทธเจ้าพูดอะไร

ทำอย่างไรจะออกจากทุกข์ไปได้ , 'ความอยาก' ทำให้เราเวียนว่ายไม่จบสิ้น , อะไรที่จะทำให้เราอยู่อย่างเป็นสุข? , อะไรที่ทำให้จิตเศร้าหมอง?

Reclining Buddha sculpture, Ajanta cave, Aurangabad district, Maharashtra state of India. Ajanta Buddhist cave ni.26.








วัดธาตุน้อย  จังหวัดนครศรีธรรมราช
Previous Post
Next Post

0 comments: