“เมตตาธรรมค้ำจุนโลก”
พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้ไว้ว่า
“ผู้มีเมตตาในสัตว์ทุกหมู่เหล่า จะไม่ฆ่าเอง ไม่ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า ไม่ชนะเอง ไม่ใช้ให้ผู้อื่นชนะ จึงไม่มีเวรกับใครๆ”
อธิบายความ
ในพระคาถานี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงถึงอานิสงส์แห่งเมตตาภาวนาของบุคคลผู้ขวนขวายในการเจริญเมตตาพรหมวิหารไว้ว่า “อกุศลเวรของผู้นั้นย่อมไม่มี”
เพราะว่า บุคคลผู้เจริญเมตตาย่อมไม่เบียดเบียนสัตว์ไรๆ หรือไม่ทำร้ายสัตว์ด้วยก้อนดินและท่อนไม้เป็นต้น ด้วยอานุภาพแห่งเมตตานั้นจึงข่มพยาบาทไว้ได้ดี คือช่วยไม่ให้เกิดการผูกใจเจ็บคิดจะแก้แค้น หรือการคิดปองร้ายผู้อื่นได้ อนึ่ง ผู้มีจิตเมตตาจักไม่ชักชวนผู้อื่นให้ฆ่าสัตว์ด้วย
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่เอาชนะใครๆ ด้วยการแข่งดีและด้วยการพูดหาเรื่องทะเลาะกัน หรือจะไม่คิดเอาชนะใครๆ ด้วยการก่อคดีเป็นต้นด้วยหมายจะทำผู้อื่นให้เกิดความเสื่อม เพราะผู้มีจิตเมตตาแท้จริงจะไม่มีความคิดในการแข่งดีกับผู้อื่นนั่นเอง อนึ่ง ผู้มีจิตเมตตาจะไม่ชักชวนใครๆทำให้คนอื่นเขาเสื่อมจากทรัพย์
บุคคลผู้มีจิตที่อบรมดีแล้วด้วยเมตตาในสรรพสัตว์ ย่อมไม่ก่ออกุศลเวร (ความพยาบาท) กับใครๆ จากสาเหตุอะไรๆ เลย คือไม่มีความโกรธเคืองแล้วก่อเวรในบุคคลอื่นด้วยเมตตาวิหารธรรมนั้น เพราะฉะนั้น เมตตาเจโตวิมุตติเท่านั้นที่แผ่แสงบริสุทธิ์ แผดเผากิเลส และทำให้เจริญรุ่งเรือง มีอานิสงส์เหนือกว่าอานิสงส์แห่งบุญกิริยาวัตถุอื่นๆ และค้ำจุนโลกไว้ได้ ดังนี้.
สาระธรรมจากอรรถกถาเมตตาภาวนาสูตร
พระมหาวัชระ เชยรัมย์ (ติกฺขญาโณ)
0 comments: