“พระมหาไพรวัลย์” มองจัดระเบียบพระ “อย่าตึงไป-ตามโลกให้ทันด้วย”
“พระมหาไพรวัลย์” มองจัดระเบียบพระ “อย่าตึงไป-ตามโลกให้ทันด้วย”
พระมหาไพรวัลย์ มองการจัดระเบียบพระสงฆ์อย่าให้ตึงไป ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมตามความเป็นจริง ชี้ ถ้าระเบียบการปกครองช่วยให้การปฏิบัติตามพระวินัยเข้มข้นขึ้นก็เห็นสมควร
รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสข่าวเรื่องมหาเถรสมาคม พระเถระ และเจ้าคณะชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่ต่าง ๆ ออกคำสั่งที่ระบุข้อห้าม และข้อกำชับให้ดูแลพระภิกษุสามเณรให้อยู่ในพระธรรมวินัยหลายข้อได้รับความสนใจจากชาวพุทธ
คำสั่งและข้อกำชับมีทั้งห้ามวัดปล่อยปละละเลยให้จัดแผงพระ วัตถุมงคล พุ่มมงคล ภายในบริเวณต่าง ๆ ห้ามติดแผ่นป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจัดสร้างจัดทำวัตถุมงคลภายในบริเวณวัด งดขึ้นป้ายงานพุทธาภิเษก พร้อมละเว้นการเรี่ยไร
ตรวจสอบพฤติกรรมและลงโทษพระภิกษุสามเณรในปกครองที่วิพากษ์วิจารณ์ หรือแสดงตนกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความสงบสุขของประชาชน หรือส่อไปในทางยั่วยุ ปลุกปั่น ทำลาย ก้าวร้าวรุนแรง และไม่สร้างสรรค์
เจ้าคณะชั้นผู้ใหญ่บางพื้นที่ออกคำสั่งให้งดเว้นการเล่นสื่อสังคมออนไลน์ชื่อดัง โดยห้ามโพสต์ภาพ ข้อความวิจารณ์ต่าง ๆ และ กดแชร์
พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า เบื้องต้นต้องพิจารณาคำสั่งต่าง ๆ ว่าเป็นการประกาศห้ามใช้ หรือปรามเฉพาะการใช้งานที่หมิ่นเหม่ ส่วนตัวมองว่า น่าจะเป็นกรณีหลังมากกว่า โดยมองว่าต้องดูไปถึงกรณีตัวอย่างว่าเทียบเคียงกับอะไรเพื่อใช้เป็นมาตรฐานในการตัดสินว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ขึ้น กรณีไหนเรียกว่าเป็นการวิจารณ์ที่กระทบต่อความมั่นคง กรณีไหนไม่กระทบ
“ถ้ามองโดยรวม คิดว่ามีพระส่วนน้อยที่กระทำพฤติกรรมที่กระทบต่อความมั่นคง ถ้าจะตีความก็เป็นการตีความได้กว้างมาก คิดว่าอาจต้องมีกรณีเปรียบเทียบว่าแบบไหนเข้าข่าย โดยปกติแล้วไม่ว่าฝ่ายไหนวิจารณ์ ต่างฝ่ายต่างวิจารณ์กันก็มักจะอ้างว่าหวังดีต่อประเทศ”
สำหรับกรณีการขึ้นป้ายโฆษณา ชักชวนการปลุกเสก เครื่องรางของขลัง พระมหาไพรวัลย์ ระบุว่า คิดว่าที่ผ่านมาคณะสงฆ์ถูกวิจารณ์พอสมควรจึงจำเป็นต้องออกคำสั่ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จำเป็นสำหรับกรณีขึ้นป้ายโฆษณาที่เป็นสิ่งมอมเมาต่าง ๆ
เมื่อสอบถามถึงกรณี การแสดงกิริยาที่ไม่ตรงกับเพศกำเนิดจากภิกษุสามเณร พระมหาไพรวัลย์ แสดงความคิดเห็นว่า ในความเป็นจริงแล้วต้องไปอยู่ในขั้นอุปสมบท อุปชา อย่างไรก็ตาม เมื่อท่านแสดงออกและมีภาพที่เกิดความเสียหายออกไป บางครั้งเป็นการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมต่อภาพสมณะ เช่นใช้ย่ามที่มีสีสัน ทาปาก ถ้าปล่อยไว้โดยไม่ควบคุมหรือหาทางแก้จะเป็นกรณีที่ทำให้ศาสนายุ่งเหยิง บั่นทอนศรัทธา การที่จะออกกฎก็เห็นว่าเป็นการสมควร
“โดยรวมแล้ว การบังคับใช้ควรคำนึงถึงความเหมาะสม ไม่ให้ตึงไป ท่าทีในการบังคับใช้ก็ควรใช้ลักษณะพระคุณ มากกว่าพระเดช” พระมหาไพรวัลย์ กล่าว
สำหรับกรณีการชำระระเบียบพระสงฆ์ต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป พระมหาไพรวัลย์ อธิบายว่า พระวินัยไม่สามารถบัญญัติเพิ่มเติมได้ แต่คณะสงฆ์มีอำนาจในการปกครอง การออกกฎระเบียบของคณะสงฆ์จะต้องสอดคล้องกับพระวินัย ถ้าดูแล้วช่วยให้การทำตามพระวินัยเข้มข้นขึ้นก็คิดว่าไม่เสียหาย
“คิดว่าการออกกฎก็ต้องตามโลกาภิวัฒน์ให้ทัน ตามให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงในโลก” พระมหาไพรวัลย์ กล่าว
ที่มา : gmlive
0 comments: